เพลงกล่อมเด็กภาษาตากใบ 'ชาชา' : Tak Bai Lullaby 'Cha Cha'

สรุป: 
'ชาแด๋ก' (กล่อมเด็ก) และ 'เวเปล๋' (ไกวเปล) เป็นกิจกรรมยามบ่ายในบ้านที่มีเด็กเล็ก หลังจากการทำนาทำสวน หากบ้านหลังใดมีลูกหลายคน ผู้หญิงในบ้านนั้นก็มักจะชาแด๋กได้หลายเพลง ตั้งแต่อดีตมาไม่เคยมีการจดบันทึก ทำให้เพลงชาแด๋กภาษาตากใบหาฟังได้ยากแล้วในปัจจุบัน
รายละเอียด: 

เพลงชาชา เป็นเพลงที่ใช้ภาษาภาพพจน์ (figure of speech) แบบบรรยายจินตภาพ (imagery) นั่นคือเล่าถึง คน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ โดยผ่านประสบการณ์ธรรมชาติ เช่น ในเพลงนี้จะเริ่มด้วยคำสร้อย “ชา” ซึ่งในภาษาไทสำเนียงตากใบจะหมายถึง การร้อง การกล่อม หรือการสวด นั่นเอง และเล่าบรรยายถึงสังคมการเกษตรในการตักน้ำรดหญ้าคา ว่าเมื่อไหร่จะเป็นดอก หลังจากนั้นก็นำวัวควายเข้าคอก เพลงนี้มีความสั้นและผู้ร้องมักจะวนรอบ หรือใช้ร้องสลับกับเพลงอื่น ๆ มีคนในชุมชนเคยกล่าวไว้ด้วยว่า ในอดีตเพลงนี้นอกจากใช้กล่อมเด็กแล้ว ยังเป็นเพลงที่เด็กใช้ร้องเล่นในการละเล่นบางอย่างอีกด้วย ซึ่งในด้านของการร้อยเรียงคำเหล่านี้ สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาษาภาพพจน์เช่นนี้ คือ เสียงสัมผัส (rhyme) ที่เรียงต่อไปเรื่อย ๆ ประกอบเป็น ฉันทลักษณ์ ที่เพลงกล่อมเด็กในภาษาไทสำเนียงตากใบส่วนใหญ่ ดังที่ได้กล่าวไว้ในการศึกษาของ สุภาพร ฉิมหนู (2561) ไว้ว่า มีลักษณะเป็นร่ายยาว 4-5 พยางค์ (ในการบันทึกครั้งนี้มีบางวรรคมีจำนวน 4-7 พยางค์ด้วยได้เช่นกัน) และคล้ายเพลงชาน้อง (เรียกกันโดยภาษาไทยปักษ์ใต้) และคล้ายกาพย์ยานีนั่นเอง

 

งานวิจัยที่น่าสนใจเกี่ยวกับเพลงกล่อมเด็กภาษาไทสำเนียงตากใบ:

- วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิตเรื่อง “การศึกษาเพลงกล่อมเด็กภาคใต้สำเนียงเจ๊ะเห (ตากใบ-ตุมปัต)” โดย สุภาพร ฉิมหนู (2561) สาขาวิชาดนตรีวิทยา วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

- "ภูมิปัญญาทางภาษาจากเพลงกล่อมเด็ก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส" โดย พรพันธุ์ เขมคุณาศัย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จากงานวิจัยเรื่องการศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้าน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้รับทุนอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2539

ตำแหน่งที่ตั้ง: 
รายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง: 

หมู่บ้านตอหลัง หมู่ที่ 3 ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส