นิทานเรื่อง เด็กกำพร้ากับพญาเจ้าเมือง
มีเด็กกำพร้าขี้เกียจคนหนึ่ง เขาอยู่ลำพังคนเดียวกับวัวหนึ่งตัว เมื่อถึงเวลาเลี้ยงวัวเขาจะใช้เชือกยาว ๆ ผูกวัวไว้ และมัดปลายเชือกไว้ที่บ้านจากนั้นให้วัวเข้าป่าไปหากินเอง ส่วนตัวเองก็นอนอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ ตอนเย็นเขาก็ไม่ต้องไปต้อนวัวกลับบ้านเหมือนคนอื่น ๆ เพียงแค่เขาดึงเชือกวัวก็จะกลับมาที่บ้านเอง ส่วนเจ้าวัวของเขาก็ตัวอ้วนขึ้นทุกวัน
การกระทำของเด็กกำพร้าสร้างความไม่พอใจให้กับพญาเจ้าเมือง อยู่มาวันหนึ่งพญาเจ้าเมืองจึงแอบฆ่าวัวของเด็กกำพร้า ปาดเอาเนื้อออกหมดแล้วเหลือแต่หนังไว้ จนกระทั่งตอนเย็นเด็กกำพร้าดึงเชือกกลับมาตามปกติเหมือนทุกวัน เมื่อเขาดึงเชือกจนสุดแล้วปรากฏว่าเห็นแต่หนังวัวผูกติดเชือกไว้ เขาเสียใจมากและไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจึงนำหนังนั้นไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำขึ้นเรือเพื่อนำไปขาย
ในระหว่างที่ล่องเรือไปขายหนังวัวมีเรือบรรทุกเงินผ่านมา เรือนั้นหนักมากจวนจะล่มอยู่หลายครั้ง แต่ในระหว่างทางได้สวนกับเรือบรรทุกหนังวัวของเด็กกำพร้า เขาเห็นว่าเรือบรรทุกนั้นเบากว่าจึงขอแลกเรือกับเด็กกำพร้า เด็กกำพร้ายอมแลกแต่โดยดีและได้เงินไปเต็มลำเรือ ขณะเดินทางกลับบ้านเด็กกำพร้าได้พบกับพญาเจ้าเมือง พญาเจ้าเมือเห็นว่าเด็กกำพร้าได้เงินจากการขายหนังวัวมามาก จึงสั่งให้เด็กกำพร้าฆ่าวัวของตนบ้าง
พอรุ่งเช้าเด็กกำพร้ามาฆ่าวัวของพญาเจ้าเมืองจนหมด เมื่อวัวตายหมดแล้วพญาเจ้าเมืองจึงนำหนังวัวไปขายเช่นเด็กกำพร้าแต่ก็ขายไม่ได้สักผืน พญาเจ้าเมืองโกรธมากจึงเผาบ้านเด็กกำพร้า เด็กกำพร้าไม่รู้ทำอย่างไร จึงเก็บเถ้าถ่านบ้านที่ถูกเผาขึ้นเรือไปขายเช่นเดิม และพบกับเรือบรรทุกเงินผ่านมาและแลกกันเหมือนครั้งก่อน เมื่อพญาเจ้าเมืองเห็นว่าเด็กกำพร้ามีเงินมากมายจากการขายถ่านจึงให้เด็กกำพร้ามาเผาบ้านของตนบ้าง พอนำถ่านไปขายก็ขายไม่ได้อีก พญาเจ้าเมืองโกรธลูกกำพร้ามาก จึงให้ทหารนำลูกกำพร้าไปฆ่าโดยการถ่วงน้ำ
ในขณะนั้นเองคนเลี้ยงวัวเห็นลูกกำพร้าที่โดนถ่วงน้ำจึงเข้าไปถาม ลูกกำพร้าจึงบอกว่าพญาเจ้าเมืองจะให้เป็นลูกเขยแต่ตนไม่ยินยอม คนเลี้ยงวัวจึงอาสาโดนผูกไว้กับหินแทนลูกกำพร้าเพราะหวังจะได้เป็นลูกเขยพญาเจ้าเมือง แลกกับวัวควายที่ตนมีอยู่ ลูกกำพร้าจึงจูงวัวควายนั้นกลับ เมื่อพญาเจ้าเมืองเห็นเข้าจึงอยากได้วัวควายดังเช่นลูกกำพร้า จึงให้ลูกกำพร้านำตนไปถ่วงน้ำเพื่อหวังจะได้วัวควายจำนวนมากนั้นมาเป็นของตนบ้าง
สุดท้ายพญาเจ้าเมืองจึงพบว่าความอยากได้อยากมีของเขาไม่ได้ก่อประโยชน์อันใด กลับพาหายนะมาสู่ชีวิตตน เรื่องราวของลูกกำพร้ากับพญาเจ้าเมืองจึงเป็นเรื่องเล่าสอนใจชาวเลอเวือะให้ยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และไม่อยากได้ของผู้อื่น จนนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตนในที่สุด
ผู้แปล นายประพันธ์ จันทร์ยวง
โบสถ์เทเรซา ม.3 ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 58110